ความต้องการ Android Tablet เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาลครับ Galaxy Tab S7 FE กลายเป็นรุ่นขายดีโดยปริยาย แม้สเปคไม่จัดจ้านเท่า Galaxy Tab S7 เรือธง แต่คงฟังก์ชั่นหลายอย่างครบถ้วน ขนาดหน้าจอ 12.4 นิ้ว ยิ่งใหญ่อลังการ รองรับ S-Pen วาดเขียนแนบเนียน Native App พัฒนารองรับ Samsung โดยเฉพาะ บอดี้บางเฉียบ พกพาสะดวก และรองรับ 4G ด้วย
สเปค Galaxy Tab S7 FE
- หน้าจอ PLS TFT ขนาด 12.4 นิ้ว (ความละเอียด 2560×1600 พิคเซล), รองรับ S-Pen
- ความจุ 64GB (เพิ่ม MicroSD)
- ชิพประมวลผล Snapdragon 750G + แรม 4GB
- ระบบ Android 11 (OneUI 3.1)
- กล้องหลัก 8MP + กล้องหน้า 5MP
- ลำโพงหลัก 4 ตัว (Quad-Speaker), จูนเสียงโดย Harman Kardon
- แบตเตอรี่ 10,090 mAh + รองรับชาร์จเร็วสูงสุด 45W
สำหรับรุ่นวางจำหน่ายจริง รองรับ 4G LTE และมีรุ่น WiFi Only ใช้งานเล่นเน็ต ดูหนัง ประชุมออนไลน์ ฯลฯ แถม S-Pen ในกล่อง แต่ Keyboard Dock ถ้าไม่มีแถมต้องซื้อเพิ่มต่างหากในราคา 4,990 บาท (ของแท้) ส่วน 3rd Party ขายประมาณ 1,200 บาท ต่อผ่าน Bluetooth
ตัวจริงดีไซน์เดียวกับ Galaxy Tab S7+ ใส่เคส ฟิล์มร่วมกัน ‘บางเฉียบ‘ เพียง 6.3 มิลลิเมตร บางกว่าหนังสือซะอีก พอร์ตเชื่อมต่อมีเพียง Type-C, ลำโพง 4 ตัว กระจายซ้ายขวา + ด้านล่าง ให้มิติ ความดังค่อนข้างดี จูนเสียงโดย AKG เจ้าเก่า
วัสดุบอดี้โลหะทั้งหมด งานประกอบแน่นหนา อยากลองสัมผัสตัวจริง … รับรองว่าชอบเลย มุมซ้ายบนกล้อง 8 ล้านพิคเซล
หน้าจอ PLS-TFT ขนาด 12.4 นิ้ว ไซส์ค่อนข้างใหญ่มากๆ เกือบเท่า Laptop แล้ว แสดงผลดีทีเดียว แม้ไม่ใช่ AMOLED สว่าง ทัชลื่น และรองรับ S-Pen เหมือน Galaxy Note พร้อมกล้องหน้า 5 ล้านพิคเซล
ระบบภายในมากับ Android 11 (OneUI 3.1) ออกแบบใช้งานทั้งแนวตั้ง – แนวนอน ต่างจากมือถือเล็กน้อย ธีม วอลเปอร์ โหลดจาก Galaxy Theme เช่นเดิม ส่วนแอปฯ เลือกโหลดผ่าน Play Store หรือ Galaxy Store ซึ่งอันหลังคัด App ทำรองรับ Tablet ด้วย นอกนั้น Pre-Load App ต่างๆ มีครบครันครับ
การเชื่อมต่อรองรับ 4G + WiFi (รุ่นวางจำหน่ายในไทย) หรือ WiFi-Only ไม่มี NFC
ที่น่าสนใจเป็นเรื่อง Samsung DEX เปิดใช้งานได้ทันที ในโหมดนี้เปลี่ยน UX คล้ายกับ PC Mode เปิดหลาย App ทำงานพร้อมกัน (แบบ Pop-Up), แสดงแจ้งเตือน สลับแอปฯ เมนูด้านล่าง รองรับการใช้งานหลากหลาย หลักๆ เป็นเรื่องทำงานเอกสาร อีเมล เบราเซอร์ แผนที่ แม้กระทั่งดูหนัง + ตอบ Line พร้อมกัน เชื่อมต่อออกทีวี – มอนิเตอร์ หรือ DEX on PC ก็ใช้งานได้
โหมดปกติเปิดแอปฯ 2 หน้าจอ เหมาะกับชาว Lecture เปิด PDF หน้านึง อีกหน้าจดบันทึกบน Samsung Note โดย Note พ่วงฟังก์ชั่นวาดเขียนครบ เมนู S-Pen พื้นฐาน เช่น Smart Select, Translate, Screen Write ฯลฯ พวกนี้ใช้บ่อยครับ คนเล่น Galaxy Note มาจะคุ้นเคยดีมาก
เมื่อสวมใส่ Keyboard Case แทบจะใช้แทน Laptop PC ได้เลย พิมพ์งาน แก้งาน ง่ายขึ้น
กล้องหลักใส่มา 8 ล้านพิคเซล มีโหมดถ่ายคน / ถ่ายกลางคืนด้วย บันทึกวิดิโอ FHD เพียงพอกับใช้งานทั่วไป และกล้องหน้า 5 ล้านพิคเซล รองรับ Video Call, Zoom คมชัดกำลังดี
ด้าน Performance ชิพ Snapdragon 750G (ทั้งรุ่น 4G, WiFi only) ภาพรวมทำงานโอเคครับ ติดแค่แรม 4GB ผมว่าน้อยไป หากใช้งานโหมด Samsung DEX หรือทำกราฟฟิค – ตัดวิดิโอ เห็นความหน่วงชัดเจน ถ้าใช้งานหนัก แนะนำอัพไป Galaxy Tab S7 ดีกว่า คะแนน AnTuTu อ้างอิงไม่ได้ 100%
สรุป
เป็นรุ่นที่ดูสเปคอย่างเดียวไม่ได้ Galaxy Tab S7 FE ใช้งานจริงราบรื่น แค่จอใหญ่ รองรับ S-Pen และ Ecosystem บน Samsung Tablet น่าจะกินขาดแล้วครับ รองรับการทำงาน ประชุม เรียนออนไลน์ จดงาน วาดรูป ดูหนังฟังเพลง จบในเครื่องเดียว แบตอึดมากอีกต่างหาก ผมเชื่อว่าใช้ 2 วันสบาย เพราะส่วนมากมีมือถือเป็นเครื่องหลักอยู่แล้ว
ข้อจำกัดมีเพียง แรม 4GB ผมว่ามันน้อยไป เพราะบางฟีเจอร์ + แอปฯ ใช้ทรัพยากรเยอะครับ ส่วน Performance จัดว่าโอเคอยู่ ชิพตัวเดียวกับ Galaxy A52 คอขวดแค่แรมแหละ
ราคา : 17,990 บาท (WiFi) | วาปไปซื้อ – https://shp.ee/sncztpt
ราคา : 19,990 บาท (4G + WiFi) | วาปไปซื้อ – https://shp.ee/dfny77t
คู่แข่งสำคัญคงไม่พ้น iPad Air 4 (WiFi), Huawei MatePad 11 หรือเพิ่มเงินเอา Galaxy Tab S7 (128GB) ได้จอดีกว่า แรงกว่า อย่างไรก็ดี เท่าที่ทดสอบใช้งานถือว่าครบครันแล้ว หากไม่ใช้งานหนักครับ
Samsung วางจำหน่าย Galaxy Tab S7 FE แล้วตามช่องทางทั่วไป ทั้งโมเดล 4G+WiFi และ WiFi Only แถม S-Pen ฟรีในชุดขาย ส่วนเคส-ฟิล์ม หาซื้อเพิ่มเติมได้ไม่ยากครับ