ปลายปีนี้ Huawei ไม่ทำให้แฟนคลับผิดหวัง Huawei Mate 50 Series กลับมาปัง กลับมาให้ทุกคนว้าวอีกครั้ง Flagship ที่เป็นขีดสุดของค่าย ทั้งคุณสมบัติสเปค หน้าจอ บอดี้ และ XMAGE นวัตกรรมถ่ายภาพพัฒนาโดย Huawei บางทีผู้ใช้ Huawei P50 หรือ Mate XS 2 อาจรู้สึกว่าทำไมกล้องถ่ายดีจัง

และ Huawei Mate 50 Series จะโหดยิ่งกว่านั้น !
สำหรับ Huawei Mate 50 Series ประกอบด้วย 4 รุ่นย่อยคือ Huawei Mate 50E, Mate 50, Mate 50 Pro และ Mate 50 RS ทั้งหมดรองรับ XMAGE ประมวลผลภาพ วิดิโออย่างมือโปร นอกนั้นต่างกันอย่างละหน่อย
ในภาคระดับ Global เน้นทำตลาด Mate 50, Mate 50 Pro เป็นหลัก เช่นเดียวกับในไทย ดังนั้นขอสรุป 2 รุ่นนี้เป็นหลักครับ : )

สเปค Huawei Mate 50
- หน้าจอ OLED 1B ขนาด 6.7 นิ้ว (2700×1224 พิคเซล), รองรับการแสดงผล 90Hz HDR10+
- ความจุ 128/256/512GB UFS 3.1
- ชิพประมวลผล Snanpdragon 8+ Gen 1 + แรม 8GB
- ระบบ HarmonyOS 3.0
- กล้องหลัก 50MP (Sony IMX766) F1.4-4.0, Laser AF OIS
- อัลตร้าไวด์ 13MP (Sony IMX688) AF + Macro
- ซูม 12MP Perioscope 5X OIS
- กล้องหน้า 13MP, รองรับถ่ายวิดิโอ 4K Ultra-Wide
- แบตเตอรี่ 4460 mAh (ชาร์จ SuperCharge 66W)



สเปค Huawei Mate 50 Pro
- หน้าจอ OLED 1B ขนาด 6.7 นิ้ว (2700×1224 พิคเซล), รองรับการแสดงผล 90Hz HDR10+
- ความจุ 256/512GB UFS 3.1
- ชิพประมวลผล Snanpdragon 8+ Gen 1 + แรม 12GB
- ระบบ HarmonyOS 3.0
- กล้องหลัก 50MP (Sony IMX766) F1.4-4.0, Laser AF OIS
- อัลตร้าไวด์ 13MP (Sony IMX688) AF + Macro
- ซูม 64MP F3.5 Perioscope 3.5X OIS
- กล้องหน้า 13MP, รองรับถ่ายวิดิโอ 4K Ultra-Wide + 3D ToF
- แบตเตอรี่ 4700 mAh (ชาร์จ SuperCharge 66W)

น่าสนใจ Huawei นำเทคโนโลยี Variable-Aperture (ปรับค่ารูรับแสงอัตโนมัติ) ทำได้ถึง 6-Stop ตั้งแต่ F1.4 – 4.0 ถือว่าโหดมากครับ ที่ผ่านมาสมาร์ตโฟนทำแค่ 2-Stop เท่านั้น เช่น Xperia Pro-I, Galaxy S9 ทั้งนี้ Huawei เคยจดสิทธิบัตรเทคโนโลยีช่วง สิงหาคม 2021 ค่า F มีผลต่อ DoF, ความสว่างของภาพ

ด้านชิพประมวลผล Snapdragon 8+ Gen 1 (4G) มาเทียบเท่า Flagship ท้ายปีของทุกค่าย + แรม 8GB (รุ่นปกติ) และ 12GB (รุ่น Pro) ยังคงรองรับ 4G LTE+ เหมือนเดิม หากต้องการใช้ 5G ซื้อเคสแยกต่างหาก ราคา 799 หยวน เช่นเดียวกับ Huawei P50 Pro



XMAGE
เทคโนโลยีถ่ายภาพ ประมวลผลภาพจาก Huawei พัฒนาต่อยอดจากช่วง Co-Engineering กับ LEICA คิดว่าน่าจะได้ Know-How มาเยอะครับ ด้วยพลังของ Computational Photography ทำให้ผู้ผลิตไม่ต้องใช้ Hardware ระดับสูงมาก แต่ Output ออกมาดีไม่แพ้กัน



Huawei Mate 50 มากับบอดี้ขนาดพอดีมือครับ ไม่ใหญ่เท่าไหร่ ผมใช้งาน Galaxy S22 Ultra อยู่แล้วใกล้เคียงกัน (แต่เบากว่า) หน้าจอ OLED ขนาด 6.7 นิ้ว หลายคนคงชอบ พาเนลขอบเรียบแสดงผลเต็มตา เล่นเกม ดูหนัง เจาะรูกล้องหน้า Punch Hole 16 ล้านพิคเซล


ขอบบอดี้เฟรมโลหะ พอร์ตเชื่อมต่อ USB-C ลำโพงคู่สเตอริโอ



ฝาหลังสีดำวัสดุกระจกผิวเงาครับ เงาแว๊บ เงาสุดๆ ตรงกลางคือกล้อง Triple-Camera ประกอบด้วย เลนส์หลัก 50 ล้านพิคเซล + อัลตร้าไวด์ 13 ล้านพิคเซล และซูม 12 ล้านพิคเซล (3.5X) โดยเลนส์หลัก สามารถปรับค่ารูรับแสงอัตโนมัติ 4 ขั้น (F1.4-4.0) มีผลต่อความชัดลึก ชัดตื้น รายละเอียดของวัตถุ




ภาพรวมทดสอบกล้อง ดีกว่าที่คิดพอสมควร อย่างไรก็ตามเครื่องนี้เป็น Prototype (ทดสอบ) รอเทสทีเดียวกับเครื่องขายจริงอีกที

ราคา – กำหนดวางจำหน่าย
ทั้ง 2 โมเดลเตรียมวางจำหน่ายในจีน 28 กันยายน ในไทยคาดว่าเปิดตัวช่วงเดือนพฤศจิกายน 2022 ด้านราคาใกล้เคียงกับมาเลเซียคือประมาณ 3x,xxx บาท
Huawei Mate 50 Series จะวางขาย 2 รุ่นย่อย Mate 50 และ Mate 50 Pro รอติดตาม !!