ภาคต่อของ Foldable สุดพรีเมียม Huawei Mate XS 2 เปิดตัวจีนก่อนหน้านี้ ล่าสุดนำมาโชว์ตัวในไทยครับ อัพเกรด Design ขนานใหญ่ ทั้งแกนพับ (Hinge) รูปแบบใหม่ พร้อมฟิล์ม Polymer ปกป้องหน้าจอ 4 ชั้น รองรับการเขียนด้วย M-Pen 2s เพิ่มความทนทาน ที่สำคัญคือ ‘ไม่มีรอยพับ‘ อีกต่อไป (คล้ายของ OPPO)


สเปค Huawei Mate XS 2
- หน้าจอ OLED ขนาด 7.8 นิ้ว (2200 x 2480) เมื่อพับใช้งานปกติ ขนาดเทียบเท่า 6.5 นิ้ว (1176 x 2480), รองรับการแสดงผล 120Hz
- ความจุ 256GB/512GB (UFS 3.1)
- ชิพประมวลผล Snapdragon 888 4G + แรม 8GB/12GB
- ระบบ HarmonyOS 2.0
- กล้องหลัก 50MP F1.8 + Ultra-Wide 13MP และ Tele Photo 8MP OIS
- กล้องหน้า 10.7MP
- แบตเตอรี่ 4600 mAh (ชาร์จเร็ว 66W)

สเปคประมาณ Huawei P50 Pro ครับ เสียดายรุ่นนี้เอา 5G ออก (ไม่ใช่ Kirin 9000) แลกด้วย Design เมื่อกางสุด บางเพียง 5.4 มิลลิเมตร น้ำหนักแค่ 255 กรัม หนักกว่ามือถือ Flagship ปกติไม่มาก ถือมือเดียวเวลาอ่านเว็บ พกพาใส่กระเป๋ากางเกง ไม่ตุงไม่หนักมาก

แกนพับ Falcon Wing แบบใหม่ Huawei บอกว่าขนาดเล็กลง แต่ทนทานกว่า แถมไม่ทำให้จอเป็นรอยพับด้วย

บอดี้มี 3 สีสันคือ Black, White และ Purple มี Texture แตกต่างกัน



นอกจากนี้ Huawei Mate XS 2 มากับอุปกรณ์เสริม Flip Case, Huawei M-Pen 2s ออกแบบเพื่อ Mate XS 2 โดยเฉพาะ ขายแยกต่างหาก


เอาล่ะ มาดูตัวจริงกันครับ หากมองผิวเผินเหมือนสมาร์ทโฟนปกติ ขนาดหน้าจอ 6.5 นิ้ว หนากว่าปกติหน่อยนึง (11.1 มิลลิเมตร) เอาจริงเหมือน iPhone 13 Pro Max ใส่เคส เมื่อกางหน้าจอออก หน้าจอขยายเป็น 7.8 นิ้ว สัดส่วนแทบจะ Square เหมาะกับใช้งานแอปฯ ดู Content แต่ดูหนัง – เล่นเกม Scale จะเพี้ยนหน่อย

ต้องบอกว่าใช้จอเกรดสูงมาก True-Chroma OLED สว่าง คมชัด อีกทั้งรองรับ M-Pen 2s อย่างที่กล่าวไปด้วย



พอร์ตเชื่อมต่อมี Type-C ด้านล่าง ปุ่มกด Power รองรับสแกนนิ้วมือ ลำโพงสเตอริโอคู่ เสียงดีทีเดียว



ด้านหลัง กล้องจัดวาง Layout แบบ Vertical ประกอบด้วยเลนส์หลัก 50MP + 8MP (Tele) + 13MP (Ultra-Wide) ไม่มีกันสั่น จากข้อจำกัดด้าน Design พร้อมปุ่มปลดล็อคจอ (เพื่อกางออก)


เมื่อกางหน้าจออก เราจะเห็นฝาหลังจริงๆ ของ Huawei Mate XS 2 วัสดุพรีเมียมสุด 3 สีสัน ลวดลายไม่เหมือนกัน











ด้านซอฟท์แวร์มากับ EMUI 12 (Global) เทียบเท่า HarmonyOS 2.0 ที่ขายจีน ลูกเล่นเหมือน Huawei P50 Pro ทุกอย่าง แอปฯ ติดเครื่องพื้นฐานครบ จัดการไฟล์ ตัดต่อวิดิโอ ออฟฟิศ แผนที่ (Petal Maps) ลงเพิ่มผ่าน AppGallery ถ้ายังติด Google Service ก็ใช้ GSpace แก้ขัดได้เหมือนเดิม



รองรับการเชื่อมต่อ 4G LTE+ / WiFi6 + Bluetooth 5.2 / NFC เหมือน Huawei P50 Series เช่นกัน ใช้งาน Super Device ร่วมกับ MatePad, MateBook, IoT แบบไร้รอยต่อ นี่เป็นจุดขายของ Huawei หลายคนชอบมาก แถมใช้งานได้จริง สะดวกจริง !



กล้องจัดให้ 50 ล้านพิคเซล + Ultra-Wide (13 ล้านพิคเซล) และ 8 ล้านพิคเซล Optical 3X ไม่มีกันสั่น จากข้อจำกัด Design อย่างไรก็ดี Huawei ใส่เทคโนโลยี XD Fusion Pro เหมือน Huawei P50 Series ทำให้ภาพออกมาสวยงาม สีสันสดใส ถ่ายกลางคืนดีซะด้วย !
ตัวอย่างภาพถ่ายจาก Huawei Mate XS 2










แน่นอนว่าใช้งานปกติ เราคงไม่ซื้อมือถือราคา 6 หมื่นกว่าบาทหรอก ที่ซื้อเพราะต้องการ ‘ประสบการณ์ใช้งาน‘ แตกต่าง เมื่อกางหน้าจอออก พบว่ามันใหญ่ทีเดียว (7.8 นิ้ว) ขณะเดียวกัน จับถือมือเดียวได้ น้ำหนักประมาณมือถือ Flagship ใส่เคสนั่นเอง เหมาะกับชม Content เล่น Social โอ้ว มันดีมาก
แต่มีปัญหาเรื่อง Scale กับเกม / ดูหนังเหลือขอบเยอะ ถ้าซีเรียสก็พับจอกลับปกติครับ




ที่น่าสนใจคือ เมื่อใส่ PU Case (แถมฟรี) พับตั้งโต๊ะทั้งแบบปกติ หรือใช้เคสเป็น Stand เมื่อกางจอออกได้ อันนี้ดีงามมาก วิธีใช้งานลองชมในคลิปละกัน
สรุป
ในโลกนี้มี 2 ค่ายทำมือถือจอพับ Foldable สมบูรณ์แบบที่สุด — Huawei, Samsung ของแบบนี้ ไม่ใช่ทำรุ่นเดียวแล้ว Perfect เลย แต่ทั้งคู่ ออก Device อย่างน้อย 3 Generations ไม่นับที่พัฒนาหลังบ้านอีก เราเห็นพัฒนาการสำคัญของแต่ละรุ่น นอกจากสเปค ด้าน Design, Body, Material รวมถึง Features ต่างๆ มีการปรับปรุงตลอดมาเช่นกัน

Huawei Mate XS 2 กล้าพูดเลยว่า ‘บางที่สุด‘ เท่าที่เคยจับมา น้ำหนักจับถือไม่ยาก คิดซะว่ามันเป็นมือถือ Flagship สวมเคสหนา สามารถกางจอออกได้ จอสวย ลำโพงเสียงดี กล้องโอเค ประสิทธิภาพใช้งาน Daily Usage สบายครับ แม้ไม่รองรับ 5G แอปฯ ทำงานไม่มีปัญหา ยกเว้นเกมที่ไม่รับสเกลจอ Square ยืดซะดูแปลกเลย

ราคา : 61,990 บาท (แรม 8GB+512)
Shopee – https://shope.ee/2VDf4xoIDo
Lazada – https://bit.ly/3Qdixar
พร้อมวางจำหน่ายต้นเดือน กรกฎาคม 2565 ผ่าน Huawei Experience Store และช่องทางออนไลน์ (Authorized Dealer) อยากสัมผัส เชิญลองหน้าช้อปเลยจ้า