เปิดตัวที่อินเดียเดือนก่อน ล่าสุด Motorola Edge 30 ถึงฤกษ์เยือนไทยซะที ลงตลาดเพียง 11,999 บาท เอาใจคนชอบความโหดรวมมิตร — จอ AMOLED 144Hz, กล้อง 50MP OIS, ชิพ Snapdragon 778G+ แถมลำโพงคู่ กันน้ำกระเซ็น (มาตรฐาน IP52) ตอบโจทย์ใช้งานทั่วไป เล่นเกม ถ่ายรูป ทั้งหมดแค่หมื่นนิดๆ เท่านั้น ผมว่าถูกมากสำหรับยุคเงินเฟ้อตอนนี้


สเปค Motorole Edge 30
- หน้าจอ pOLED ขนาด 6.5 นิ้ว (FHD+), รองรับการแสดงผล 144Hz ค่าสี 1 พันล้านสี 10-Bit HDR10+
- ความจุ 128GB UFS 3.1
- ชิพประมวลผล Snapdragon 778G+ พร้อมแรม 8GB LPDDR5
- ระบบ Android 12 (MyUI)
- กล้องหลัก 50MP F1.8 OIS + Ultra-Wide 50MP + Depth
- กล้องหน้า 32MP
- รองรับการเชื่อมต่อ WiFi 6E + Bluetooth 5.2 + NFC
- ลำโพงคู่สเตอริโอ พร้อมระบบ Dolby Atmos
- แบตเตอรี่ 4020 mAh + ชาร์จเร็ว 33W



สเปคค่อนข้างดีทีเดียว ทั้งหน้าจอ กล้อง ชิพประมวลผล แบตค่อนข้างน้อยไปนิด เข้าใจว่าเพราะบอดี้บาง(มาก) เพียง 6.8 มิลลิเมตร ทาง Motorola เคลมว่าเป็นมือถือ 5G บางสุดในตลาด ณ ปัจจุบัน แถมเบาแค่ 155 กรัม !
นอกจากนี้ยังติดออฟชั่นครบ ทั้งรองรับ Global 5G, ลำโพงสเตอริโอคู่ + Dolby Atmos, กันละอองน้ำ ตามมาตรฐาน IP52 ฯลฯ

แกะกล่อง Motorola Edge 30 มีอุปกรณ์ให้ค่อนข้างครบ เคส TPU, วอลชาร์จ 33W, สาย USB-C, หูฟัง และคู่มือใช้งาน หน้าจอไม่ได้ติดฟิล์มให้ ต้องหาข้างนอกเอง


ของจริงบางมากครับ นึกถึงยุค Moto Z Series ทำตัวเครื่องบางพิเศษ (เพื่อใช้งาน Moto Mod) บางเพียง 6.8 มิลลิเมตร น้ำหนัก 155 กรัม เทียบกับรุ่นอื่นๆ น้ำหนักประมาณ 180-190 กรัม คนชอบมือถือบางๆ พกพาง่าย คงแนะนำรุ่นนี้

พอร์ตเชื่อมต่อมีเพียง USB-C ลำโพงคู่สเตอริโอบนล่าง




ฝาหลังวัสดุคล้ายกระจก ผิวด้านเรียบ Matte ไล่เฉดสีสันด้วยสวยงาม มุมซ้ายบนชุดกล้อง 50 ล้านพิคเซล (เซ็นเซอร์ OV50A) + Ultra-Wide 50 ล้านพิคเซล (ISOCELL JN1) และ Depth นูนจากตัวเครื่องเล็กน้อย



หน้าจอโดดเด่น AMOLED ขนาด 6.5 นิ้ว (FHD+) รองรับ HDR10+, สแกนนิ้วบนหน้าจอ, Refresh Rate 144Hz แถบจะไร้ขอบ เหมาะกับดูหนัง เล่นเกม ใช้งานแอปพลิเคชั่นทั่วไป ตรงกลางเจาะรูกล้องหน้า 32 ล้านพิคเซล









ระบบมากับ Android 12 ครอบด้วย MyUI หน้าตาออกแนว Pure Android เหมือนก๋วยเตี๋ยวไม่ปรุงรส ทำงานรวดเร็วทันใจ แอปฯ ติดเครื่องมีน้อยมาก อยากลงอะไรเชิญกด Play Store เอาเนอะ นอกนั้นมาตั้งค่าผ่าน Moto Apps



ภายในมีลูกเล่นหลากหลาย เช่น Personalize เปลี่ยนธีม ไอคอน ตัวหนังสือ, Gesture เปิดกล้องถ่ายภาพ ไฟฉาย ด้วยการสะบัด / สับมือ ฯลฯ, Peek Display คล้ายกับ Always-On แต่ไม่ทำงานตลอดเวลา, GameTime โหมดเมนูลัดสำหรับเล่นเกม รวมถึง Dolby Atmos เพื่มประสบการณ์การฟัง ดูหนัง มีมิติมากขึ้น ฯลฯ




Motorola Edge 30 รองรับเชื่อมต่อ 5G Dual-SIM ทุกเครือข่าย, WiFi 6, Bluetooth 5.2 + NFC และ Ready For คล้าย Link to Windows ของ Samsung / Huawei Share เชื่อมต่อกับ Windows PC แล้วถ่ายโอนไฟล์ ภาพถ่าย ฯลฯ ง่ายขึ้นอย่างมาก


ด้าน Performance หลายคนบอกสเปคเท่า Nothing Phone 1 เลย ใช้ชิพ Snapdragon 778G+ แรม 8GB + ความจุ 128GB UFS 3.1 อีกตะหาก คะแนน AnTuTu ออกมา 52x,xxx แต้ม สูงทีเดียว แต่อาจไม่สูงเท่า Snapdragon 870 5G ตรงนี้เพียงพอกับการใช้งาน + เล่นเกมแล้ว

โดย Motorola มีโหมด GameTime จัดการประสิทธิภาพ เมนูลัดระหว่างเล่นเกมด้วย

แบตเตอรี่บอกเลยว่าไม่ธรรมดา แม้ความจุ 4000 mAh ด้วยข้อจำกัดจากบอดี้บางเฉียบ แต่ใช้งานเต็มวันสบาย ให้ภาพมันบอกละกัน : )


กล้องหลักมาพร้อมเซ้นเซอร์ OV50A เช่นเดียวกับ Motorola Edge 30 Pro (50MP) มีกันสั่น OIS + Ultra-Wide 50MP ทำตัวเองเป็น Macro Lens ได้ โหมดใช้งานค่อนข้างครบเลย ถ่ายคน ถ่ายกลางคืน พร้อมลูกเล่นเสริม เช่น Cinemagraph (แบบภาพ GIF), Dual-Capture (ถ่ายกล้องหน้าหลังพร้อมกัน)


วิดิโอสามารถบันทึก 4K 60fps และรองรับ OIS ด้วย
ตัวอย่างภาพถ่ายจาก Motorola Edge 30













สรุป
ถึงขายล่าช้ากว่าคาดไว้ Motorola Edge 30 ไม่ทำให้ผิดหวัง ให้ได้ทั้งความบางเฉียบ สเปคแรง จอสวย กล้องจัดเต็มในตัวเดียว แถมราคาไม่กระเป๋าฉีกด้วย แม้มีคู่แข่งหลายรุ่น Range เดียวกัน แต่รุ่นนี้มีจุดขายเด่นเยอะตามที่กล่าวไป ข้อจำกัดไม่ค่อยมีอะไรให้ด่า นอกจากกล้องผมว่าปรับ UX หน่อยจะดีมาก
เหมาะกับผู้ใช้ต้องการมือถือบาง เบา จอสวย สเปคเล่นเกมใช้งานทั่วไปดีเยี่ยม กล้องเด่น วิดิโอ 4K OIS รองรับ 5G ทุกเครือข่าย งบประมาณ 13,000 บาท +-

ราคา : 11,999 บาท (แรม 8GB+128)
Shopee – https://shope.ee/7KJm7VbLca
Lazada – Motorola Official Store Lazada
JD Central – Motorola Official Store JD Central
** ส่วนลดเฉพาะ 15-31 กรกฎาคม จากราคาปกติ 12,999 บาท
Motorola Edge 30 วางจำหน่ายผ่านช่องทาง Official Store บน Shopee, Lazada, JD Central และหน้าร้าน TGFone เปิดจองตั้งแต่ 15 กรกฎาคม 2565 เป็นต้นไป โดยได้ส่วนลดพิเศษถึง 31 กรกฎาคมนี้