Skip to content

รีวิว Redmi Note 11 Pro 5G แข็งแกร่ง แรงเร็ว จอ 120Hz ราคาหมื่นต้นๆ

เปิดตัวอย่างเป็นทางการ Redmi Note 11 Pro 5G (ชื่อยาวจัง) รวมถึงรุ่น 4G ด้วย ตัวอัพเกรดจาก Note 10 Pro ทั้งหน้าตา ชิพประมวลผล ระบบชาร์จ ฯลฯ รองรับ 5G ในงบหมื่นต้นๆ คราวนี้ Xiaomi Thailand นำ Ink Waruntorn เป็นพรีเซ็นเตอร์ด้วย

redmi note 11 pro 5g

redmi note 11 pro 5g

สเปค Redmi Note 11 Pro 5G

  • หน้าจอ AMOLED DotDisplay 6.67 นิ้ว (FHD+), รองรับการแสดงผล 120Hz ความสว่างสูงสุด 1200 nits
  • ความจุ 128GB (UFS 2.2)
  •  ชิพประมวลผล Qualcomm Snapdragon 695 5G + แรม 8GB
  • ระบบ Android 11 (MIUI 13)
  • กล้องหลัก 108MP F1.9 ISOCELL HM2 + Ultra-Wide 8MP, Macro
  • กล้องหน้า 16MP
  • แบตเตอรี่ 5000 mAh (ชาร์จเร็ว 67W)

แกะกล่อง อุปกรณ์ภายในพื้นฐานครบ – ตัวเครื่อง, ฟิล์มกันรอย (แปะสำเร็จ), เคส TPU, สายชาร์จ Type-C, วอลชาร์จ 67W และคู่มือการใช้งาน

redmi note 11 pro 5g redmi note 11 pro 5g redmi note 11 pro 5g

ตัวจริงเมื่อสัมผัสให้ความรู้สึกต่างจาก Redmi Note 10 Pro ชัดเจน บอดี้ค่อนข้างบาง ขอบเหลี่ยมโค้งมน รุ่นนี้มากับหน้าจอ AMOLED ขนาด 6.67 นิ้ว (120Hz) ขนาดใหญ่เหลือเฟือกับใช้งานทั่วไป เล่นเกม ดูหนังเต็มตา แถมพาเนลเรียบซะด้วย ตรงกลางคือกล้องหน้า 16 ล้านพิคเซล

redmi note 11 pro 5g redmi note 11 pro 5g redmi note 11 pro 5g

พอร์ตเชื่อมต่อครบ Type-C, หูฟัง 3.5 มิลลิเมตร, ลำโพงคู่บนล่าง และ IR Remote ใช้งานเป็นรีโมทควบคุม Device ที่รองรับ

redmi note 11 pro 5g redmi note 11 pro 5g redmi note 11 pro 5g

ฝาหลัง Redmi Note 11 Pro 5G วัสดุกระจกผิวด้าน (Matte Glass) เหมือน Xiaomi 11 Lite เพิ่มความหรูหรา ที่สำคัญเค้ามากับ 3 สีสัน — Graphite, White, Blue อย่างสีฟ้าเนื่ยคล้ายกระแสน้ำ สวยแปลกตาดีครับ สีขาวก็สวย เทาออกเรียบๆ หน่อย

redmi note 11 pro 5g

กล้องหลัก Triple-Camera 108MP เซ็ตเหมือน Redmi Note 10 Pro เลย

ระบบภายในมากับ MIUI 13 (บน Android 11) เวอร์ชั่นล่าสุด ทำงานรวดเร็ว หน้าตารวมๆ คล้ายเวอร์ชั่นก่อนหน้า แอปพลิเคชั่นติดเครื่องเรียกว่าไม่ต้องลงอะไรเพิ่มก็ได้ ฟีเจอร์เสริม Gesture, Dual-Apps, Game Turbo ฯลฯ เปลี่ยนธีม วอลเปเปอร์ รวมถึงหน้าจอ Always-On Display ปรับหลายอย่างตามต้องการเช่นกัน

redmi note 11 pro 5g redmi note 11 pro 5g redmi note 11 pro 5g

การเชื่อมต่อ รองรับ WiFi 5 + NFC และ 5G ทั้ง NSA/SA ทดสอบบน AIS บริเวณ ถ.กรุงเทพกรีฑา วิ่งประมาณ 500 Mbps ถือว่าใช้ได้ดี

redmi note 11 pro 5g redmi note 11 pro 5g redmi note 11 pro 5g

กล้องหลัก Redmi Note 11 Pro 5G มากับเซ็นเซอร์ ISOCELL HM2 เหมือนกับ Xiaomi 11T 5G, Redmi Note 10 Pro ข้อดีคือเก็บรายละเอียด ทำ Lossless Zoom 2X ได้ แต่ไม่มี OIS + Ultra-Wide 8MP และ Macro Lens โหมดถ่ายภาพต่างๆ ครบครันตามพื้นฐาน

redmi note 11 pro 5g

สามารถลากไฟเส้น ถ่ายน้ำตก, ถ่ายพร้อมกัน 2 กล้อง (Dual-Video) รวมถึง Portrait, Night มีให้ใช้เช่นกัน

ตัวอย่างภาพถ่ายจาก Redmi Note 11 Pro 5G | https://terabox.com/s/1MhJw_XgH4zW44l32V-CXxw

redmi note 11 pro 5g

redmi note 11 pro 5g redmi note 11 pro 5g

ด้าน Performance ใช้ชิพ Snapdragon 695 5G ประสิทธิภาพเป็นรอง SD778G เล็กน้อย เล่นเกมกราฟฟิคระดับกลาง – สูงไม่ลำบาก ใช้งานทั่วไปสบายครับ คะแนน AnTuTu ทดสอบเกือบ 400,000 แต้ม ส่วนเมมโมรี UFS 2.2

redmi note 11 pro 5g

จับสัญญาณ GPS รวดเร็วทันใจ รองรับชาร์จเร็ว 67W จิ้มประมาณ 1 ชั่วโมงเต็ม

สำหรับ Redmi Note 11 Pro 4G ลดสเปคใช้ชิพ Helio G96 ส่วนตัวคิดว่าอัพงบเล่น 5G ดีกว่า ใช้งานยาวๆ ไม่ต้องเปลี่ยนบ่อย หรืองบเท่านี้ลองเล่น Poco X4 Pro 5G ผมว่าคุ้มกว่าพอสมควร (และประสบการณ์ใช้งานไม่ต่างกัน)

redmi note 11 pro 5g

สรุป

วันนี้ Xiaomi อัพเกรดรุ่นระดับ Mid-Tier เป็น 5G Device เกือบทั้งหมด เช่นเดียวกับ Redmi Note 11 Pro 5G แม้ราคาปรับขึ้นเล็กน้อย แต่สเปครวมๆ สมค่าตัวทั้งชิพ Snapdragon 695 5G, บอดี้สวยขึ้น ลำโพงคู่ จอ AMOLED 120Hz แสดงผลดีไม่แพ้รุ่นใหญ่ ชาร์จเร็ว 67W ฯลฯ พร้อม Design ใหม่หรูหรา เทียบกับ Redmi Note 10 Series แล้วคนละเรื่องเลย

จากที่ทดสอบการใช้งานทั่วไปโอเค ทั้งเล่นเกม การระบายความร้อน ซอฟท์แวร์ ปรับปรุงดีขึ้นตามลำดับ ส่วนกล้อง 108MP ถ่าย 4K หรือ 1080p (60) ไม่ได้ กับประมวลผลภาพไม่รวดเร็วนัก ตรงนี้คู่แข่ง เช่น Galaxy A52s, realme 9 Pro+ ทำได้ดีกว่า คาดว่า Update ถัดไปจะปรับปรุงให้ดีขึ้น

ราคา : 10,990 บาท (8GB+128) 
Shopee – https://shp.ee/eh6gcwf
JD Central – https://cutt.ly/eP9ikF3
Lazada – https://cutt.ly/2P9iFWA

ภาพรวมถือว่าแข่งขันรุนแรงทีเดียว มือถือราคา 1x,xxx บาท ประสิทธิภาพแรงเร็ว 5G จอคมชัด กล้องสวย ผู้บริโภคอย่างเราๆ ตัดสินใจไม่ถูกเลยล่ะ :) เปิดจอง 17-28 กุมภาพันธ์ 65  วางจำหน่ายตามหน้าร้าน 5 มีนาคม 2565 เป็นต้นไปครับ