หลังเปิดตัวมาสักพัก พร้อมโปรโมชั่น #เอาเรื่อง กับเรือธงปลายปี Huawei Mate 10 Pro เทียบกับ Mate 9 Pro ถือว่ามีพัฒนาการ อีกนิดก็สวนหลวง #เดี๋ยววว .. มีอะไรเปลี่ยนแปลงพอสมควรครับ อย่างกล้องจัด Leica 2.0 (Summilux) F1.6 เลนส์คู่มาเลย ไม่ทำให้ผิดหวังครับ หน้าจอ 18:9 (FHD+), ชิพประมวลผล Kirin 970 โฆษณาเรื่อง AI มากขึ้น ฯลฯ นอกจากนี้ยังเป็นรุ่นแรกๆ ที่ลง Android 8.0 (Oreo) มาในตัวอีกด้วย
หากคุณกำลังตัดสินใจซื้อ อ่านสรุปด้านล่างเลยครับ :D
– งานบอดี้เกลามาลงตัวมาก (Huawei บอกว่าออกแบบอย่างสมดุล) วัสดุโลหะ + ผิวกระจก ผมชอบกว่า Mate 9 Pro นะมันสวยย รอบนี้สีน้ำตาลสวยครับ น้ำเงินออกโทน Dark ไปหน่อย
– หน้าจอ AMOLED สีสันสดใส ขนาด 6.0 นิ้ว (18:9) ณ ตอนนี้ยังไม่เจอปัญหาอะไร การแสดงผลทำได้ดีเยี่ยม วิดิโอต้องยืดจาก 16:9 ดูผิดสเกลนิดนึง เล่นเกม – ใช้งานแอพฯ ตามปกติ (หาก App ไม่รองรับ 18:9 สามารถปรับให้มันแสดงผล 16:9 ได้นะ)
– รอม Android 8.0 ลื่นสุดยอด ลื่นจริงจังอะ แต่ EMUI หน้าตาโบราณน่ะครับ อยากให้ Huawei ออกแบบใหม่ ลูกเล่นเยอะ Gesture / Motion มาครบ ส่วนตัวไม่ค่อยใช้พวกนี้เท่าไหร่
– เล่นเกม พบว่าเกมรับประทานสเปคเยอะๆ อย่าง Lineage 2 Revolution สามารถเล่นได้ไม่มีปัญหา (ทุกโหมด) ส่วน ROV มีคนถามว่า Fps เท่าไหร่ ขอตอบว่าประมาณ 50-55 Fps น่าจะเพียงพอกับการเล่นทุกสถานการณ์ครับ
– แบตเตอรี่ 4000 mAh ทำให้ Mate 10 Pro ลากได้เต็มวัน หากใช้งานปกติเล่น Social เช็ค Email ติดต่องาน ถ่ายภาพนิดหน่อย หากเล่นเกม – ดูหนังนานๆ (ไม่ต่ำกว่า 2-3 ชั่วโมง / วัน) ต้องพึ่งพา PowerBank อยู่ดีจ้า
– ระบบ SuperCharge เหมือน Mate 9, P10 ทุกประการครับ เร็วปรู้ดปร้าดของจริง
กล้อง
ผมเทส + ซื้อ Huawei หลายรุ่น กล้าฟันธงเลย Mate 10 Pro (และ Mate 10) คือตัวเทพสุดของ Dual-Camera สำหรับการถ่ายภาพ (ย้ำนะว่า .. ถ่ายภาพ) โหมดกล้องครบ ใช้ง่าย ซูม 2X แบบ Loseless พร้อม F1.6 ถ่ายแสงน้อยแบบเนียนกริบ และ Pro Mode ลากชัตเตอร์ ปรับ ISO ฯลฯ ค่อนข้างยืดหยุ่น
(Special Thanks : น้องร้าน Lemon นายแบบ)
โหมด Portrait คือ Wide-Aperture + Beauty ครับ นอกจากเบลอหลัง ยังปรับหน้าเนียนหลายระดับ (ตามความชอบ) ที่เหลือระบบจัดการให้ Auto หมดเลย นอกจากนี้ยังมี Moving Picture (เหมือน Live Photo) ถ่ายภาพ + คลิปสั้น (2 วิ) ถ่ายภาพช่วงเวลาทรงจำ เวลากลับมาดูจะมีคลิปสั้นๆ ให้นึกถึงช่วงเวลานั้นย้อนหลัง
อีกฟีเจอร์ที่ Huawei โชว์ก็คือ Scene Detection ขึ้นเป็นรูปหมา คน ภูเขา ฯลฯ คล้าย Superior Auto ของ Sony ตรงนี้ระบบจะทำการปรับแต่งค่าแสง สี ความคมชัด ให้เหมาะสมอัตโนมัติ ส่วนที่บอกว่าใช้ AI ช่วย อันนี้ผมสัมผัสไม่ได้แหะ 555 แต่ภาพออกมาสวยจริงครับ
โหมดที่ผมใช้บ่อยอีกตัวก็คือ Good Food ถ่ายอาหารออกมาดูสด สวย เนียน ไม่จัดจ้านเกินไป
< ภาพตัวอย่าง (รวมทุกโหมด) >
– สำหรับวิดิโอ Mate 10 Pro ถ่าย 4K (30 fps) แต่ OIS ใช้ได้ที่ FHD 30 fps ไม่มี EIS ถ้าใช้ทำงานควรพึ่งพา Gimbal ช่วยครับ ภาพรวมผมว่า iPhone 8, Galaxy Note 8 ถ่ายวิดิโอดีกว่า
– ลูกเล่นอื่นมีครบ แบ่ง 2 หน้าจอ (Multi-Screen), Gesture – Motion เช่นเดียวกับการเชื่อมต่อ Huawei เคลมว่ารองรับ 4G LTE สแตนด์บายพร้อมกัน 2 ซิมการ์ด พร้อมรองรับ 4.5G ความเร็วสูงกว่า 1 Gbps … เรื่องอนาคตเนอะ
– ส่วนตัวคิดว่ารับสัญญาณดีมากครับ (ใช้ TrueMove H)
– เมมโมรีภายใน 128GB ของผมน่ะพอ .. ส่วนมากเป็นภาพถ่ายซดความจุเยอะ ข้อดีของการอัด Storage ในตัวอย่างเดียวคือ ‘ความเร็วการอ่าน – บันทึกไฟล์’ รวดเร็วมาก หากใส่ MicroSD อาจมีผลต่อความเร็ว เพราะบางคนยังใช้เมมเก่า / เมมตัวถูก ซึ่งความเร็วต่ำมาก
– Dock PC ไม่มีอุปกรณ์ต่อนะ … แต่เท่าที่เคยลอง (ในงาน) รอบนี้ Huawei ทำการบ้านมาดี Dock ไม่ต้องซื้อเนอะ แต่ตัวสายเชื่อมต่อ / Hub ต้องรองรับ Display Port 1.2 นะจ๊ะ (สายเส้นละประมาณ 380 บาท Type C to HDMI)
สรุป
เทียบกับ Mate 9 Pro ตัวนี้น่าใช้กว่ามากครับ ปรับรูปลักษณ์ภายนอก วัสดุงานประกอบ ยอมว่าสวยขึ้นเยอะ บางพกพาง่าย ขณะเดียวกัน ด้านกล้องถือว่าเป็น #ที่สุด ระดับ Top 5 ของสมาร์ทโฟน Flagship ปัจจุบัน ถ่ายสวย ลูกเล่นเยอะ หากคุณชอบถ่ายภาพนิ่ง รับรองว่าถูกใจมากกกก
