ปีนี้ vivo เลือกเปิดตัว vivo X80 Series ช้ากว่าปกติเล็กน้อย แต่ปูพรม ‘ขายทั่วโลก‘ เร็วแบบจุใจ ในไทยก็เช่นกัน ดูเหมือนว่า ปัญหา Chip Shortage จะไม่กระทบมาก คราวนี้ vivo จัดเต็มจริงๆ – vivo X80, vivo X80 Pro โดยรอบนี้ Spec Gap แทบไม่ต่างเหมือนตอน X70 Series แล้ว ทำให้เครื่องศูนย์ไทยน่าสนใจขึ้นมากๆ
จากเดิม X70 Pro กับ X70 Pro+ ต่างกันจน User หลายคนต้องยอมกด Pro+ จากต่างประเทศแทน แต่ไม่ใช่สำหรับ X80 Series ละครับ บางทีกระแสอาจเทมา Pro แทน (ประกันศูนย์ไทยด้วย)
Sony IMX866 | ISOCELL GNV
ข้อมูลกล้องเลนส์หลัก ยืนยันชัดเจนว่า vivo X80, vivo X80 Pro ใช้ Sony IMX866 จัดวางพิคเซลแบบ RGBW รับแสงดีขึ้นอีก ขนาดเซ็นเซอร์ 1/1.5″, 7 ชิ้นเลนส์ ส่วน X80 Pro+ ใช้ ISOCELL GNV ปรับปรุงจากรหัส GN1 เดิมก็โหดอยู่แล้ว คาดว่ารุ่น Pro, Pro+ ใช้ระบบกันสั่น Gimbal OIS 3.0 เช่นกัน
พร้อม vivo V1+ ชิพประมวลผลภาพ – วิดิโอ คราวนี้ใส่มา ‘ทุกรุ่นย่อย‘ เพิ่ม Performance ด้านภาพถ่าย วิดิโอ รวมถึง Video Output, Gaming เหมือนการ์ดจอแยกประมาณนั้น และ ZEISS T* Coating ลดแสงสะท้อน
- Ultra-Wide 48MP OIS
- TelePhoto 12MP
- Perioscope 8MP (5X)
โดย vivo X80 5G จะไม่มี Perioscope ให้
แรงทั้งคู่ ไม่ต้องเถียงกัน
ตอน vivo X70 Series มีความต่างของสเปคของรุ่น Pro และ Pro+ พอสมควร อย่างไรก็ตาม vivo X80 Series รุ่นปกติจะใช้ Dimensity 9000 5G ส่วน Pro+ ใช้ Snapdragon 8 Gen 1 ซึ่งคะแนน Benchmark แทบไม่ต่าง ดังนั้น เหลือเรื่องเดียวต้องเทียบกันคือ ‘การจัดการพลังงาน + ความร้อน‘ ช่วงหลัง Mediatek ทำตรงนี้ดีมากซะด้วย
ด้านแรม + ความจุ ทั้ง 2 โมเดลมากับ แรม 12GB+256 เรียกว่าใช้กันเหลือเฟือสุด
ดีไซน์ใหม่
หน้าตาของ vivo X80 Series ต่างจาก X70 Series สิ้นเชิง โดยเฉพาะ Back Cover มาทรงเดียวกับ ‘vivo NEX Series’ วางกล้องเป็นวงกลม (Circular) เหมือน Huawei เคยทำก่อนหน้านี้
วัสดุคงเดิมครับ เฟรมโลหะ ฝาหลังกระจกเคลือบผิว Fluorite AG สัมผัสพรีเมียม ไม่ลื่นมือ ยกเว้นรุ่น Pro+ ที่มีตัวเลือกฝาหนังเทียม มีให้เลือก 3 สีคือ ดำ, ฟ้า, ส้ม อย่างไรก็ตาม vivo X80 ที่ขายในไทย วางจำหน่าย 2 สีคือ Black, Blue ส่วนรุ่น Pro ขายเฉพาะสีดำเท่านั้น
อื่นๆ
- ระบบชาร์จรุ่น vivo X80, vivo X80 Pro รองรับ 80W
- กล้องหน้า 32 ล้านพิคเซล
- Android 12 + Funtouch OS / OriginOS (จีน)
- กลไกระบายความร้อนแบบผสม (Vapor Chamber, Graphite, Liquid Cooling)
มาดู vivo X80 5G กันดีกว่า อุปกรณ์ในกล่องแถมมาครบทุกอย่าง วอลชาร์จ 80W, สาย USB-C, หูฟัง, คู่มือการใช้งาน เคสแถมแบบ Hard Case ผิวสวยนะแต่เว้าขอบ ฟิล์มกันรอยติดมาเรียบร้อย (ของดี !)
ขนาดบอดี้ใกล้เคียงกับ vivo X70 Pro หน้าจอขนาดเท่ากัน (6.78″) คราวนี้อัพเกรดใช้ AMOLED E5 FHD+ แสดงผลคมชัด ลื่นไหล 120Hz รองรับสแกนนิ้วบนหน้าจอ ขอบโค้งพอสมควร น่าสนใจคือในกล่องมีแผ่นซีลปุ่ม + พอร์ต สำหรับคนที่จะติดกระจก UV เออเพิ่งเคยเห็นนะ
เฟรมบอดี้โลหะ ค่อนข้างบาง พอร์ตเชื่อมต่อ Type-C, ปุ่ม Power + Volume ลำโพงสเตอริโอคู่บนล่าง
ฝาหลังเหมือน vivo X70 Series วัสดุกระจกเคลือบ Fluorite AG ผิวสัมผัสหนืดมือนิดนึง ประกายยิบยับ ไม่เป็นรอยนิ้วมือ และสวยทั้งสีฟ้า – สีดำ เลนส์กล้องจัดวางแบบ Circular โดย vivo X80 5G ติดกล้อง 50+12+12MP ครบทั้ง Portrait, Wide, Ultra-Wide พร้อม Laser AF
ระบบภายในมากับ Android 12 (Funtouch OS 12) หน้าตาเรียบง่าย ทำงานเร็ว เหมือนกับ vivo Y33T, vivo T1 5G เคยรีวิวก่อนหน้า แอปฯ ติดเครื่องมีให้เท่าจำเป็นครับ ย้ายไฟล์จากเครื่องเก่า (Phone Clone), เครื่องคิดเลข ตัวจัดการไฟล์ แบ่ง 2 หน้าจอ + หน้าต่าง Pop Up ทำได้เหมือนเดิม
แอปฯ ลงผ่าน Play Store หรือ v-Appstore ได้ทั้งคู่
vivo X80 5G รองรับเชื่อมต่อ 5G Dual-SIM (มาตรฐาน 3GPP Release-16), WiFi 6E พร้อม Bluetooth 5.3 เรียกว่าอัดของใหม่สุดมาเลย GPS เปิดปุ๊บติด รองรับนำทาง Location แม่นยำเหมือนกับ Flagship รุ่นอื่นๆ
ด้าน Performance น่าจับตามองเพราะ vivo X80 5G คือรุ่นแรกใช้ Dimensity 9000 5G (รุ่น Pro ใช้ Snapdragon 8 Gen 1) หลายคนอยากลอง Mediatek ว่าแรงขนาดไหน ร้อนมั้ย แบตไหลมั้ย ว่ากันตัวเลขคือ ‘ไม่ต่างกัน‘ คะแนน AnTuTu เฉียดล้าน รุ่นเข้าไทย แรม 12GB+256
ส่วนใช้งานจริง ผมเล่น Black Desert Mobile ปรับสุด Full Load (ดูเอาในคลิปว่า CPU/GPU วิ่งขนาดไหน) พบว่าเครื่องอุ่นๆ เท่านั้น แบตลดตามปกติ ไม่ถึงกับน้ำป่าไหลหลากนะครับ ใช้งานทั่วไปจัดว่าพอใจทีเดียว เชื่อว่าหลายคนน่าจะพอใจกับ Dimensity 9000 5G มากกว่า Snapdragon เสียดาย Device มีให้เลือกน้อยมาก
กล้องเป็น Hilight เด็ดของ vivo X80 Series สำหรับ vivo X80 5G ใส่กล้องมา 3 ตัวคือ
- เลนส์หลัก | 50 ล้านพิคเซล F1.8 เซ็นเซอร์ Sony IMX886 ขนาด 1/1.49″ OIS 4-Axis พร้อม Laser AF
- Portrait | 12 ล้านพิคเซล F2.0 เซ็นเซอร์ Sony IMX663 ขนาด 1/2.98″
- Ultra-Wide | 12 ล้านพิคเซล F2.0 เซ็นเซอร์ Sony IMX663 ขนาด 1/2.98″
UX กล้องเหมือน vivo X70 Series ครับ ใช้งานไม่ยาก ลูกเล่นพื้นฐานครบ ถ่ายคน ถ่ายกลางคืน พร้อมฟังก์ชั่น Pro Mode, AI Portrait, Double Exposure (ภาพซ้อน), Dual-View (ถ่ายพร้อมกันทั้งหน้าหลัง) พร้อม ZEISS Natural Tone ปรับสีสันสมจริง ปกติระบบจูนภาพสีสันจัดจ้านพอสมควร
โหมด Portrait ปรับแต่งหลายอย่าง ทั้ง Filter, Facial ปรับโครงหน้า หน้าเนียน ปากสวย จบหลังกล้องได้เลย ที่น่าสนใจคือ Bokeh Effect ร่วมพัฒนากับ ZEISS เช่น Biotar, Planar, Distagon, Sonnar ให้โทนภาพ – โบเก้แตกต่างกัน และ Cinematic บังคับถ่ายอัตราส่วน 21:9 เบลอคล้ายถ่ายผ่านกระจก
ฟีลถ่ายหนังเลย สวย !
อีกโหมดเจอใน Pro Mode คือ APC ปรับ Perspective อัตโนมัติเมื่อถ่ายอาคาร / ห้อง (คล้ายกับใช้เลนส์ Tilt-Shift) ผลลัพธ์พอรับได้นะ
เช่นเดียวกับ Night Mode มี Filter เปลี่ยน Mood & Tone ภาพ ถ่าย Panorama Night ได้ แนะนำว่าต้องมีขาตั้งกล้อง
ด้านวิดิโอรองรับถ่ายสูงสุด 4K 60fps ใช้งาน OIS + EIS เพียงพอถ่ายลง Social ใช้ถ่ายงานก็ยังไหว ขาดแค่ Gimbal 5-Axis เอานิ่งขนาดนั้นต้องไปรุ่น Pro แน่นอนว่าเขามี Cinematic Effect ถ่ายวิดิโอเบลอ Bokeh สวยอีกแล้วครับท่าน แต่ … ความละเอียดจำกัด FHD 24fps เท่านั้น
ถ่าย Selfie กล้องหน้า 32MP พร้อม Portrait จัดเต็มเหมือนกล้องหลัก มีใส่กรอบ Filter เหมือนแอปฯ แต่งภาพด้วย
ตัวอย่างภาพถ่ายจาก vivo X80 5G
สรุป
จากลองใช้ vivo X80 5G ต้องบอกว่ารุ่นเริ่มต้น ก็เท่ากับ Flagship บางค่าย ทั้ง Performance, Camera, Design, Features ต่างๆ ที่จัดเต็มหนัก มีทุกอย่างพร้อมใช้ จอสวย เกมลื่น ไม่ร้อน กล้องครบทุกระยะ โทนสี ลูกเล่น (เหมือน Pro) ในราคาค่าตัวเหมาะสม ช่วงโปรโมชั่นอาจเห็น 2 หมื่นกลางๆ ไม่ต้องลังเล
เทียบกับรุ่น Pro อัพเกรดกล้อง Wide + Ultra-Wide ที่โหดมาก พร้อม Perioscope ซูมไกล 5X เหมาะกับสาย Street Photo เพิ่มมุมมองใหม่ๆ ตรงนี้ถ้างบถึงก็เอา Pro เลย อย่างไรก็ตาม คิดว่าใช้ไม่มากขนาดนั้น เลือก vivo X80 5G ประหยัดหลายพันบาทชิพ vivo V1+ ช่วยประมวลผลภาพ วิดิโอ การแสดงผล ก็มีเหมือนกันหมด
Promotion
ทาง Online Platform และ Brand Shop ทยอยเปิด Blind Booking ของ vivo X80 และ vivo X80 Pro 5G ก่อนเปิดตัว เบื้องต้นให้คูปองส่วนลด 1,000 บาท และของแถมเพิ่มเติม อย่างไรก็ดี หากจองผ่าน Operator ก็มีโปรใกล้เคียงกัน + ส่วนลดเมื่อเปิดเบอร์ใหม่ / เปลี่ยนโปรตามเรทที่กำหนด
ราคา : 29,999 บาท (แรม 12GB+256)
Shopee – https://shope.ee/401yxeQnMP
Lazada – https://bit.ly/3LJIKKs
JD Central – https://bit.ly/3wCzkvZ
รายละเอียดทั้งหมดของ vivo X80, vivo X80 Pro 5G ประมาณนี้เลยครับ พร้อมวางจำหน่ายต้นเดือนมิถุนายน 2565 แน่นอนว่าสายถ่ายภาพ วิดิโอ Production ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง !